สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนล้างแอร์และหลังล้างแอร์
สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนล้างแอร์และหลังล้างแอร์ จะล้างแอร์หรือจะจ้างช่างล้างแอร์อย่างน้อยเราก็ควรมีความรู้หรือการสังเกตติดตัวไว้บ้างเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเข้าใจไม่ตรงกันหลังจากที่จ้างล้างไปแล้วต้องมาทะเลาะหรือความเห็นไม่ตรงกัน เสียทั้งเวลาและเสียความรู้สึก ตรวจสอบหรือเช็คแอร์ โดยการเดินเครื่องก่อน 10-15 นาที ก่อนถอดเครื่อง ก่อนล้างแอร์ใดๆก็ตามสิ่งที่ควรจะทำลำดับแรกเลย คือ การเปิดแอร์ทดสอบก่อน เช่นแอร์ในห้องต่างๆที่คุณไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ได้เปิดเลย ว่ามันยังปรกติดีอยู่หรือเปล่ายังเย็นดีอยู่มั้ย จะได้รู้ว่าถ้าหลังล้างไปแล้วมีปัญหา มันเกี่ยวกับการที่พี่ๆเพิ่งล้างแอร์ไปแล้วทำให้มีปัญหา หรือมันเป็นอยู่ก่อนแล้ว แต่ถ้าเป็นห้องแอร์ที่พี่ใช้กันทุกวันอยู่แล้ว หรือเพิ่งเปิดไม่นานเช่นห้องนองนอนเพิ่งนอนเมื่อคืนก็ไม่จำเป็นต้องไปเปิดทดสอบอะไร มันมีกรณีหลายครั้งหรือค่อนข้างบ่อยครั้งเลยที่ พี่ๆจะ ล้างแอร์ ไม่ว่าจะเป็นล้างเองหรือจ้างช่างมาล้าง ไม่ได้เปิดทดสอบการทำงานของเครื่องแอร์ว่าปรกติดีอยู่มั้ยก่อนที่จะล้าง หลังจากทำการล้างจนเสร็จเรียบร้อยแล้วแอร์เกิดมีปัญหาขึ้นมาไม่เย็นบ้าง มอเตอร์สวิงไม่เดินบ้างมอเตอร์พัดลมไม่หมุน หรือเครื่องไม่ทำงานเลยขึ้น ERROR CODE มาซะอย่างนั้น แล้วทีนี้จะหาสาเหตุหรือจะเป็นความผิดของใครล่ะ ส่วนใหญ่คนล้าง ตัวเรา หรือ ช่างแอร์ ที่มาทำการ ล้างแอร์ ก็จะตกเป็นจำเลยไปซะอย่างนั้น โดยสาเหตุที่แท้จริงก็ไม่มีใครทราบ เมื่อเป็นเช่นนี้กระบวนการนี้จริงสำคัญมาก จึงอยากให้คุณพี่ทั้งหลายลองเปิดทดสอบเดินเครื่องดูก่อนนะสัก 10 นาที มั่นใจว่าเครื่องเย็นดีแล้วสมบูรณ์ปรกติจึงค่อยทำการแกะถอดล้าง ถ้าไม่สมบูรณ์เย็นดีก็ให้ทำการตรวจเช็คซ่อมเสียก่อน นอกเสียจากว่ามันจะไม่เย็นเพราะเครื่องสกปรกอันนั้นจะสังเกตได้ตั้งแต่แรกเลยว่าลมออกน้อยผิดปรกติ หรือลมออกไม่ทั่วหน้าคอยล์ไม่สม่ำเสมอ แต่ส่วนใหญ่ช่างแอร์ที่เก่งๆหรือมีประสบการณ์มากๆนั้น เค้าจะต้องตรวจสอบเองก่อนเสมอได้ไม่ต้องให้เจ้าของบ้านบอก เค้าจะทดลองเปิดแอร์ตรวจสอบความเย็น ดูน้ำทิ้ง เช็คการทำงานของมอเตอร์ด้วยตาเปล่าและถ้ามีปัญหาก็จะแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบก่อนที่จะทำการล้างแอร์
ปูผ้าที่พื้น คลุมเตียง คลุมทีวี หรือพิ้นที่ที่จะทำการล้างให้เรียบร้อย
การทำงานที่ดีนั้นหน้างานจะต้องสะอาดเรียบร้อย จัดเก็บทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเสียก่อน ปลั๊กไฟที่เสียบไฟอยู่ใกล้ๆ ก็ควรจะถอดออกไว้ให้ห่าง อุปกรณ์ไฟฟ้า ยกออกได้ก็ควรทำ บริเวณที่จำเป็นต้องขึ้นไปเหยียบเช่นตู้หรือโต๊ะ ก็ควรจะปูผ้าให้เรียบร้อย ตัวเครื่องแอร์เองก็ควรจะคลุมผ้าใบ ล้างแอร์ ให้เรียบร้อยไม่มีรอยซึมรอยรั่วของน้ำได้และปลายผ้าก็ควรทิ้งให้ลงที่เก็บน้ำเช่นถังน้ำ หรือ ปล่อยระบายออกนอกหน้าต่างในกรณีที่อยู่ติดหน้าต่างแล้วเปิดหน้าต่างล้าง ทำการตัดไฟเมน และตรวจสอบระบบเมนไฟฟ้าที่เข้าตัวเครื่องแอร์ ให้มั่นใจแน่นอน 100% ว่าไม่มีไฟแล้ว จริงๆ เรื่องสำคัญยิ่งกว่าข้อไหนทั้งหมด อย่างน้อยควรมีไขควงเช็คไฟหรือเทสแลมป์เช็คหน่อยก็ยังดี ให้ปลอดภัยจริงๆ อันตรายถึงขึ้นเสียชีวิตได้เลยนะ แม้กระทั่ง ช่างแอร์มืออาชีพ เองบางครั้งยังโดนไฟดูด บาดเจ็บได้เลยนะ มันไม่มีอะไรให้คุ้มที่จะเสี่ยงกันเลย เช็คเครื่องมือให้พร้อม ใช้งานสมบูรณ์ เครื่องมือต่างๆที่จะใช้งานล้างแอร์ต้องอยู่ในสภาพดีสมบูรณ์ อย่างน้อยก็ต้องหมั่นตรวจสอบบ่อยๆบ้างหรือถ้าไม่เคยตรวจเลยก่อนการใช้งานก็น่าจะดูสักนิดนึงที่สำคัญที่สุดก็คือ ไขควงเช็คไฟอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมใช้งานแน่นอนมั้ย เครื่องฉีดน้ำหรือปั๊มล้างแอร์ มีจุดสายไฟถลอก มีขาดมั้ยหรือมีปลั๊กกันไฟดูดสำหรับเครื่องฉีดน้ำใช้อยู่บ้างมั้ย บันไดแข็งแรงดีมั้ย คลิปแอมป์วัดกระแสไฟ เกจ์วัดแรงดันน้ำยา โบลเวอร์ก็เช่นกัน เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดการล้างไปครึ่งทางแล้วไม่จบงานได้
ได้ถอดถาดน้ำและโบลเวอร์ (กรงกระรอก ภาษาช่าง) และมอเตอร์แฟนคอยล์รึป่าว
เขียนกันจากใจคนที่เคยเป็น ช่างล้างแอร์ มาก่อน บางครั้งถ้าพี่ๆจ่ายค่าแรงแอร์ในราคาที่ถูกแล้วช่างถอดให้พี่หมดตั้งแต่ถาดน้ำถึงโบลเวอร์บางครั้งมอเตอร์โหดกว่านั้นถอดแผงวงจรไฟฟ้าออกไปด้วยเลย แล้วล้างแบบเอี่ยมกริ๊ปทั้งหมด พี่โชคดีมาก เพราะการ ล้างแอร์ ที่ถอดขนาดนี้ ส่วนใหญ่ช่างที่คิดจะราคาไม่ต่ำกว่า 500 บาท แน่นอน เพราะเป็นงานที่ละเอียด ใส่ใจและใช้เวลา แต่ถ้าล้าง 300 ส่วนใหญ่ อย่างมากก็ถอดแค่โบลเวอร์ใบพัด หรือกรงกระรอก แต่ผมไม่ได้หมายถึงทุกช่างนะ ช่างที่บริการดี ราคาถูกก็มี เพราะฉะนั้น จ่ายราคาไหนได้งานราคานั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ยกเว้นจ่ายแพงแล้วได้งานถูกอันนั้นก็ต้องพิจรณาเลือกช่างกัน ตั้งแต่ตอนแรกไปนะ ที่ต้องกล่าวถึงในเรื่องนี้เพราะผมก็ได้รับคำถามพวกนี้มามากเหมือนกันเวลามีคนรู้จักมาปรึกษา ก็เลยถือโอกาสเล่าให้ฟังตรงนี้เลย จะล้างให้สะอาดทั้งหมด จริงๆควรถอดนะ เพราะไม่อย่างนั้นจะล้างหลังคอยล์หรือ ช่วงพับด้านล่างของคอยล์รูปตัว V ไม่ได้ คอยล์ตัว V หมายถึงในแอร์ติดผนังทั่วไป ที่เป็นรูปสามเหลี่ยม เพราะจะไม่ได้แหย่หัวฉีด ล้างแอร์ เข้าไปด้านใน ด้านในนั้นบางทีก็สกปรกไม่เบาเลยนะ ถ้าไม่ถอดถาดน้ำทิ้งก็ยากที่จะล้างถาดน้ำทิ้งให้สะอาดและในจะใบสวิงในอีก ถอดให้หมดถ้าช่างแอร์ที่มาล้างไม่ถอดให้ถามเค้าเลยทำไมไม่ถอด ถ้าเค้าบอกว่าราคาที่ตกลงกันไม่ถอดก็คุยกันจ่ายเพิ่มเค้าไปเถอะ ถ้าราคาที่เริ่มต้นคุยกันมันไม่ได้สูงมาก เพราะถ้าพี่ๆไม่ได้ล้างด้านในคอยล์ก็เหมือน ล้างแอร์ ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
ล้างท่อน้ำทิ้ง และดูดท่อน้ำทิ้ง
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการ ล้างแอร์ นั่นคืออย่าได้ลืมล้างท่อน้ำทิ้งไปด้วยหรืออัดฉีดท่อน้ำทิ้งของแอร์ด้วยเผื่อทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่างๆหรือเมือกที่อุดตันในท่อเพราะนั่นเป็นสาเหตุหลักอย่างนึงที่ทำให้น้ำแอร์หยด เพราะน้ำแอร์ไม่มีทางระบายไหลออกไปทิ้งด้านนอกได้ไหลย้อนกลับมาที่ถาดน้ำแล้วล้นออกหน้าแอร์เพราะฉะนั้นควรล้างอัดท่อน้ำทิ้งทุกครั้งที่ ล้างแอร์ และ ควรดูดปลายท่อน้ำทิ้งด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่ดูดน้ำได้ด้วยก็ยิ่งดีใหญ่เลย จะได้ออกให้หมด เปิดเครื่องทิ้งไว้หลังล้างเสร็จ อย่างน้อย 10-15 นาที เมื่อล้างและประกอบเครื่องแอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะเปิดเครื่องทดสอบทิ้งไว้ 10-15 นาทีดูความเย็นด้วยการใช้ตัววัดอุณหภูมิวัด และใช้ตัววัดความแรงลมได้ก็ดีนะ และท่อน้ำทิ้งต้องตรวจสอบว่ามีน้ำทิ้งแอร์ไหลไปดีมั้ย น้ำทิ้งไหลออกได้สะดวกมั้ย ไม่ควรจะมีน้ำทิ้งแอร์ขังไว้ในถาดน้ำแอร์น้ำเพราะจะทำให้เกิดเมือกด้านในได้ และท่อน้ำก็จะอุดตันเหมือนเดิม เพื่อตรวจสอบความเย็นของเครื่องแอร์ และตรวจสอบน้ำทิ้งที่ไหลออกจากแอร์
ล้างแอร์แหลมฉบัง, ล้างแอร์ชลบุรี, ล้างแอร์ อันดับ 1 ชลบุรี, ล้างแอร์ระยอง, ล้างแอร์ ชลบุรี ศรีราชา, ล้างแอร์ ศรีราชา, ล้างซ่อมติดตั้งแอร์โรงงาน ชลบุรี, ล้างซ่อมติดตั้ง