ขั้นตอนการล้างแอร์บ้าน บริการแบบมืออาชีพ
ขั้นตอนการล้างแอร์บ้าน บริการล้างแอร์บ้านแบบมืออาชีพ ฉบับจัดเต็มทำกันอย่างไร อธิบายถึงขั้นตอนบริการล้างแอร์บ้านฉบับจัดเต็ม ที่ใส่ใจในรายละเอียด เพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับเจ้าของบ้านในการเปรียบเทียบและเลือกใช้บริการล้างแอร์ในครั้งต่อๆ ไป การล้างแอร์ เป็นอีกกิจกรรมที่เจ้าของบ้านต้องใช้บริการเป็นประจำ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าบริการล้างแอร์บ้านในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกหลากหลายราคา และโดยทั่วไปก็มักสอดคล้องกับความใส่ใจในรายละเอียดของการบริการ ทั้งนี้ เจ้าของบ้านอย่างเราๆ จะตัดสินใจเลือกใช้บริการแบบไหนดี? ลองมาดูตัวอย่างกันก่อนว่า การล้างแอร์บ้านที่บริการไม่บ้านๆ แต่ใส่ใจในรายละเอียดครบถ้วนนั้นเขาทำกันอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการล้างแอร์บ้านแต่ละเจ้าแต่ละราคาโดย ขั้นตอนการล้างแอร์บ้าน นำมาฝากครั้งนี้จะเป็นการล้างแอร์แบบติดผนัง
- เตรียมพื้นที่ก่อนล้างแอร์
แม้ในขณะที่ทำการฉีดน้ำล้างแอร์จะต้องมีผ้ารองเพื่อให้น้ำไหลลงถังที่เตรียมไว้ แต่ก็ควรมีการปูผ้าใบพลาสติกที่พื้นป้องกันไว้ด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ภายในห้องซึ่งอาจเสียหายได้ง่ายหากวัสดุปูพื้นโดนน้ำ การปูผ้าใบรองพื้นในห้องก่อนลงมือล้างแอร์ (บน) และการล้างแอร์ทั้งคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น โดยมีผ้ารองให้น้ำไหลลงถังที่เตรียมไว้ - ตรวจสอบการทำงานของแอร์ก่อนล้าง
ทั้งการทำงานของรีโมท บานสวิง พัดลม อุปกรณ์ต่างๆ ทั้งคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น รวมถึงวัดอุณหภูมิ แรงดันน้ำยา และกระแสไฟฟ้า ให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพปกติก่อนจึงค่อยเริ่มลงมือล้างแอร์ การตรวจสอบการทำงานของแอร์ก่อนลงมือล้าง บริการล้างเครื่องปรับอากาศและบริการอื่นๆ - ถอดชิ้นส่วนในตัวเครื่องแอร์
ทั้งแผ่นกรอง พัดลมคอยล์เย็น หรือที่เรียกกันว่าพัดลมกรงกระรอก และฝาครอบเครื่องแอร์ เพื่อเตรียมนำไปทำความสะอาด การถอดชิ้นส่วนต่างๆ จากเครื่องแอร์เพื่อเตรียมนำไปล้าง ได้แก่ แผ่นกรอง พัดลมคอยล์เย็น หรือที่เรียกว่าพัดลมกรงกระรอกและหน้ากากเครื่องแอร์ - ล้างทำความสะอาดแผงคอยล์เย็น
โดยใช้น้ำแรงดันสูงฉีดล้าง และอาจฉีดสารทำความสะอาดเพิ่มเติม อย่างโฟมฆ่าเชื้อสำหรับพ่นแล้วทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่เหมาะสม การฉีดน้ำทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นและการพ่นโฟมฆ่าเชื้อ - ล้างสารฆ่าเชื้อออกจากแผงคอยล์เย็นและทำให้แห้ง
เมื่อใช้น้ำฉีดล้างโฟมฆ่าเชื้อออกจากแผงคอยล์เย็นจนหมดแล้ว จึงใช้เครื่องเป่าให้แห้ง รวมถึงเป่าท่อน้ำทิ้งเพื่อไล่น้ำและความชื้นออกไป การใช้น้ำฉีดล้างล้างโฟมฆ่าเชื้อออกจากแผงคอยล์เย็น จากนั้นเป่าให้แห้ง และการเป่าท่อน้ำทิ้งเพื่อไล่ความชื้นในท่อ - ล้างทำความสะอาดชิ้นส่วนที่ถอดออกจากเครื่องแอร์
ฉีดน้ำล้างแผ่นกรอง พัดลมคอยล์เย็น และฝาครอบเครื่องแอร์ ที่ถอดออกมา (จากข้อ 3) จากนั้นเป่าให้แห้ง การฉีดทำความสะอาดชิ้นส่วนต่างๆ ที่ถอดออกมาจากเครื่องแอร์ ทั้งแผ่นกรอง พัดลมคอยล์เย็น และฝาครอบเครื่องแอร์ การเป่าชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อไล่ความชื้น - ล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อน
โดยฉีดน้ำแรงดันสูง จากนั้นเป่าไล่ความชื้นในตัวเครื่อง และเช็ดคราบน้ำภายนอกให้เรียบร้อย การฉีดน้ำล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อน และเป่าไล่ความชื้น พร้อมเช็ดคราบน้ำภายนอกตัวเครื่อง - นำชิ้นส่วนถอดมาฉีดล้างเรียบร้อยแล้ว ไปประกอบกลับที่เครื่องแอร์
ทั้งฝาครอบเครื่องแอร์ พัดลมคอยล์เย็น และแผ่นกรอง ที่ทำความสะอาดไปเรียบร้อยแล้ว (ในข้อ 6) หลังจากประกอบเสร็จ อาจมีการฉีดแอลกอฮอล์หรือสารฆ่าเชื้อเพื่อความสะอาดอีกครั้ง การนำชิ้นส่วนที่ถอดจากเครื่องแอร์มาประกอบคืนให้เข้าที่ ล้างแอร์ พ่นแอลกอฮอล์ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ล้างแอร์บ้าน บริการล้างแอร์ รับล้างแอร์ ล้างแอร์รายปี 2023 การพ่นสารฆ่าเชื้อภายนอกตัวเครื่องแอร์ หลังจากดำเนินงานเสร็จ - ตรวจสอบระบบการทำงานของแอร์หลังล้าง
ทั้งการทำงานของรีโมท บานสวิง พัดลมในเครื่อง อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงวัดอุณหภูมิ แรงดันน้ำยา กระแสไฟฟ้า ทั้งคอยล์ร้อนและคอยล์เย็น ก่อนจะส่งมอบงานให้ลูกค้า การตรวจสอบระบบการทำงานของแอร์หลังล้าง - ดูแลความเรียบร้อยของและส่งมอบงานให้กับลูกค้า
เมื่อดำเนินงานเสร็จสิ้นและทำการเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดแล้ว ทีมช่างควรดูแลความเรียบร้อยและความสะอาดของพื้นที่ก่อน จึงส่งมอบงานให้ลูกค้าพร้อมใบรับประกันการดำเนินงาน การเช็ดทำความสะอาดและเก็บความเรียบร้อยของพื้นที่และส่งมอบใบรับประกันให้ลูกค้า
บริการล้างแอร์ควรล้างแอร์ทุก 6 เดือน ขั้นตอนการล้างแอร์บ้าน
ขั้นตอนการล้างแอร์บ้าน บริการล้างแอร์ควรล้างแอร์ทุก 6 เดือนเมื่อเจ้าของบ้านพอนึกออกว่า การล้างแอร์บ้านโดยมืออาชีพแบบจัดเต็มเก็บรายละเอียดครบถ้วนนั้นทำกันอย่างไร ก็อาจลองใช้ยึดเป็นเกณฑ์ในการสังเกตขั้นตอนการล้างแอร์ที่ใช้บริการอยู่ดูว่า เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปแล้วได้รับบริการคุ้มค่าหรือไม่ บางเจ้าราคาสูงรู้สึกว่าแพง แต่พอได้สังเกตขั้นตอนรายละเอียดการดำเนินงาน อาจรู้สึกว่าไม่แพงแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่า หนึ่งในการดูแลรักษาแอร์ที่ดีคือ ควรล้างแอร์ทุก 6 เดือน ซึ่งหากเจ้าของบ้านเกรงว่าจะลืม อาจเลือกซื้อบริการล้างแอร์แบบแพคเกจที่มีระบบเตือนอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกแทนก็ได้เช่นกัน ปกติแล้วแอร์ของเราควรจะล้างทุกๆ 3 เดือนหรืออย่างแย่สุด 6 เดือน ควรจะล้างครั้งหนึ่ง เพื่อให้ระบบทำความเย็นไม่มีปัญหาและช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรค และสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ประเด็นก็คือ เราจะเลือกช่างคนไหน มาล้างเราควรจะดูยังไง เราจะเลือกยังไง ผมมีเทคนิคง่ายๆ 2 ข้อมาแนะนำ
- ดูราคา
ยอมรับเถอะถูกและดีไม่มีในโลก ราคาใน การล้างแอร์นั้น เริ่มต้นโดยปกติของร้านทั่วๆ ไป อยู่ที่ประมาณ 500 บาท (ขึ้นกับพื้นที่ด้วย) ต่ำกว่านี้ต้องคิดแล้วว่าทำไมถึงทำได้ถูกเกินจริง ที่พูดแบบนี้เพราะลองคิดดู ช่างมาล้าง ต้องมีค่าน้ำมันรถอย่างน้อย 100-200 บาท ต้องมีค่าแรงลูกน้อง อย่าต่ำ 320 บาทต่อคน (ประมาณค่าแรงขั้นต่ำซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่จะสูงกว่านั้น) ต้องมีค่าแรงตัวเอง ต้องมีค่าเสื่อมของอุปกรณ์ ที่ใช้ล้าง ต้องมีค่าอุปกรณ์สิ้นเปลืองอื่นๆ หากคิดรวมๆ แล้ว 500 บาทนี้ได้กำไรแค่ 50 – 150 บาทต่อตัวเท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าราคาต่ำกว่านี้มีแนวโน้มว่า เราอาจโดน เก็บค่าอื่นๆ เพิ่มได้โดยเป็นความจงใจของช่าง เช่น เก็บค่าล้าง 300 บาทจริง แต่ให้เติมน้ำยา เพิ่มอีก 500 บาทเป็นต้น ซึ่งเติมจริงหรือไม่ ลูกค้าโดยมากก็ไม่มีทางรู้ได้ แต่ถ้าช่างที่เราเรียกมา เก็บราคาสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องจงใจเก็บอะไรเราเพิ่ม ยกเว้นแอร์เราคงจะมีปัญหาจริงๆ - และความน่าเชื่อถือ
ช่างที่มาล้างแอร์ให้เรามีคุณภาพแค่ไหน อันนี้คนทั่วไปอาจจะดูออกยากสักหน่อย แต่ให้ลองสังเกตุดูทุกอาชีพจะมี ชมรม สมาคม หรือหน่วยงานภาครัฐรับรอง ถ้าเราสังเกตดีๆ ช่างบางร้านจะผ่านการรับรอง จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีใบรับรองผ่านการ ฝึกอบรม ได้รับการยกย่องว่าเป็นร้านแอร์ No.1 จากสมาคมแอร์ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้ สามารถปฏิบัติ งานให้เรามั่นใจได้ว่ามีฝีมือและจริงจังกับอาชีพ ทำให้ลดความเสี่ยงได้ประมาณหนึ่ง นอกจากนี้การจ้างช่างแอร์ถ้าที่มีหน้าร้าน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีมาก เพราะหากมีปัญหาหลัง จากเสร็จงาน เราสามารถติดต่อ หรือไปพูดคุยที่ร้านได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าช่างจะทิ้งงาน แต่ถ้าหากมีแค่เบอร์เพียงอย่างเดียวอาจจะเจอพวกโทรแล้วไม่รับ หรือเงียบหายไปเลยพอรับเงิน